ทําประกันสุขภาพลูกน้อยที่ไหนดี ในปี 2567 นี้ AIA มี ประกันสุขภาพลูกน้อย ประกันสุขภาพเด็กทารกแรกเกิด แบบไหนไว้สร้างความคุ้มครองให้ลูกรักและให้คุณพ่อคุณแม่ได้เลือกวางแผนประกันสุขภาพให้ลูกกันบ้าง
AIAplanner ทีมงานตัวแทนประกันชีวิตและประกันสุขภาพ จาก เอไอเอ ได้เรียบเรียงข้อมูลทั้งความคุ้มครอง ราคา ค่าเบี้ย และข้อดีข้อด้อย ไว้ในบทความนี้ให้ได้ศึกษาเปรียบเทียบข้อมูลกันค่ะ
ควรทำประกันสุขภาพเด็ก ให้ลูกน้อยดีไหม ?
นี่คือเหตุผลจากคุณพ่อคุณแม่ส่วนใหญ่ที่ตัดสินใจทำประกันสุขภาพให้ลูกกับเราตั้งแต่แรกคลอดกันค่ะ
- เด็กเล็กภูมิคุ้มกันยังไม่สมบูรณ์ ทำให้น้องๆป่วยบ่อย หลายๆคนป่วยเฉลี่ย 2-4 ครั้งต่อปี อาจจะทำให้เกิดค่าใช้จ่ายที่ไม่สามารถควบคุมได้กับคุณพ่อคุณแม่
- ลูกน้อยคือแก้วตาดวงใจ บางครั้งไม่สามารถสื่อสารอาการเจ็บป่วยกับคุณพ่อคุณแม่ได้ ยามเจ็บป่วยมาคุณพ่อคุณแม่จึงอยากให้ลูกได้รับการรักษาที่รวดเร็วและสะดวกสบายที่สุด
- การทำประกันสุขภาพให้ลูกตั้งแต่ก่อนป่วย จะทำให้ไม่ต้องถูกยกเว้นโรคที่เป็นมาก่อน หรือถูกเพิ่มเบี้ยซึ่งจะทำให้เราต้องจ่ายราคาค่าเบี้ยที่ต้องสูงขึ้นไปอีก ดังนั้น หากคุณพ่อคุณแม่บ้านไหนตั้งใจว่าจะทำอยู่แล้วและงบประมาณพร้อมอยากให้ทำให้ไวที่สุดค่ะ ซึ่งบางโรคหากป่วยก่อนทำประกัน เช่น RSV น้องอาจจะไม่สามารถสมัครทำประกันไปได้อย่างน้อยอีก 1-2 ปีเลยค่ะ
- ความเชื่อที่ว่ารอให้โตก่อนเบี้ยจะถูกลง หรือ เด็กทารกอยู่แต่บ้านไม่น่าจะป่วย อาจจะใช้ไม่ได้แล้วเนื่องจากโรคในเด็กบางโรคไม่ออกอาการในผู้ใหญ่ แต่ผู้ใหญ่อาจเป็นพาหะนำโรคมาติดเด็กได้ หรือหากบ้านไหนมีพี่ไปโรงเรียนที่พบได้บ่อยเลยคือการที่พี่ติดจากโรงเรียนแล้วนำมาติดน้องอีกทีค่ะ
โรคที่พบบ่อยในเด็ก และค่าใช้จ่าย
- โรค RSV ค่าใช้จ่ายต่อครั้งประมาณ 50,000 – 150,000 บาท
- โรค มือ เท้า ปาก ค่าใช้จ่ายต่อครั้งประมาณ 30,000 – 120,000 บาท
- ไข้หวัดใหญ่ ค่าใช้จ่ายต่อครั้งประมาณ 30,000 – 80,000 บาท
- ไข้เลือดออก ค่าใช้จ่ายต่อครั้งประมาณ 50,000 – 100,000 บาท
- ท้องเสีย ค่าใช้จ่ายต่อครั้งประมาณ 20,000 – 50,000 บาท
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : โรคในเด็ก
ประกันสุขภาพเด็กในปัจจุบัน ทำไมถึงแพง
ในปัจจุบันประกันสุขภาพเด็กมีราคาค่อนข้างสูงเฉลี่ย ราคาเบี้ยจะอยู่ที่ประมาณ 3 หมื่น – 1 แสนกว่าบาท ขึ้นกับ อายุ เพศ วงเงินคุ้มครอง และประวัติสุขภาพ
แต่เนื่องจากเด็กเล็กช่วงอายุ 0 – 5 ขวบ มีโอกาสเจ็บป่วยได้บ่อยกว่าปกติ เด็กบางคนอาจจะป่วยกว่า 2-4 ต่อปี อีกทั้งค่ารักษาพยาบาลในปัจจุบันที่ค่อนข้างสูง ค่ารักษาพยาบาลต่อครั้งเฉลี่ยประมาณ 50,000 – 100,000 บาท จึงส่งผลให้ค่าเบี้ยประกันสุขภาพเด็กจึงสูงตามไปด้วย เนื่องจากบริษัทประกันต้องวางแผนวงเงินความคุ้มครองกับค่าเบี้ยให้อยู่ในอัตราที่เหมาะสมเพื่อที่จะสามารถให้แผนสามารถดูแลคุ้มครองสุขภาพเด็กได้อย่างยั่งยืน
ถึงแม้ว่าค่าเบี้ยประกันเด็กจะราคาค่อนข้างสูงในปัจจุบัน แต่คุณพ่อคุณแม่ส่วนใหญ่ก็ยังเลือกที่จะวางแผนประกันสุขภาพให้ลูกเนื่องจาก “ค่าเบี้ยประกัน ถูกกว่า ค่ารักษาในวันที่ลูกเจ็บป่วย” แน่นอนค่ะ
แผนประกันสุขภาพเด็ก ประกันสุขภาพลูกน้อย ของ AIA ในปี 2567 แบบไหนดี
คำถามที่พบได้บ่อยในการวางแผนประกันสุขภาพให้ลูกน้อยกับคุณพ่อ คุณแม่ คือ แผนไหนที่ดีที่สุด ซึ่งถ้าจะตอบว่าแผนไหนที่ดีที่สุด ก็คือ แผนที่วงเงินสูงที่สุดนั้นเอง อ่านเพิ่มเติมได้ที่ : ประกันสุขภาพเด็กที่ดีที่สุด
แต่ในแต่ละครอบครัว มีรายรับ รายจ่าย ที่ไม่เท่ากัน งบประมาณในการทำประกันให้ลูกย่อมแตกต่างกันไป ปัจจุบันมีแบบประกันแบบไหนไว้เป็นตัวเลือกใช้สร้างความคุ้มครองให้กับลูกรักบ้าง เรารวบรวมข้อมูลมาให้คุณพ่อคุณแม่ได้พิจารณากันค่ะ
ตารางเปรียบเทียบ ประกันสุขภาพเด็กและลูกน้อย AIA ยอดนิยม ปี 2567
แผนประกันสุขภาพลูกน้อยมีหลายวงเงิน หลากหลายราคา เราทำสรุปแผนที่คุณพ่อคุณแม่นิยม มาให้เปรียบเทียบดูข้อมูลเบื้องต้นกันค่ะ
ตารางเปรียบเทียบราคาค่าเบี้ย ประกันสุขภาพลูกน้อย AIA
รายละเอียดประกันสุขภาพลูกน้อยแผนต่างๆ
1. ประกันสุขภาพเด็กควบการลงทุน AIA H&S EXTRA – UDR
ประกันสุขภาพเด็ก AIA H&S EXTRA – UDR ประกันสุขภาพแบบมีออมในกองทุนรวม แผนนี้วงเงินค่ารักษาพยาบาลจะเป็นแบบเดียวกันกับแผน AIA H&S EXTRA ธรรมดา แต่จะมีจุดเด่นคือจะเป็นประกันควบการลงทุนทำให้คุณสมบัติอื่นที่เหนือกว่า ได้แก่ การได้ค่าเบี้ยคงที่ มีเงินสะสมในกองทุนรวม และมีความยืดหยุ่นในการวางแผนได้หลากหลายกว่า
ความคุ้มครองแผน AIA H&S EXTRA – UDR
จุดเด่นของแผน AIA H&S EXTRA – UDR
-
- วางแผนจ่ายเบี้ยได้คงที่ตลอดสัญญาทำให้วางแผนค่าใช้จ่ายเรื่องประกันได้ง่ายขึ้น
- การันตีการรับประกันตลอดสัญญา
- เพิ่มโอกาสได้รับผลตอบแทนโดยเบี้ยหลังหักค่าใช้จ่ายจะถูกนำไปลงทุนในกองทุนรวม
- จ่ายเบี้ยรวมน้อยกว่าในระยะยาว
- วางแผนหยุดหรือพักชำระเบี้ยได้ในอนาคต
- มีความยึดหยุ่นของแผนมากกว่า
- มีเงินกองทุนสำรองไว้ใช้ในอนาคต
ราคา ค่าเบี้ยประกันแผน AIA H&S EXTRA – UDR
ตัวอย่างการวางแผน
เด็กชายอายุ 3 ขวบ วางแผนค่ารักษาพยาบาลวงเงิน H&S Extra- UDR ค่าห้อง 3500 บาท
-
- แผนค่ารักษาพยาบาล AIA H&S Extra-UDR ค่าห้อง อาหาร วันละ 3,500 บาท
- ค่าแพทย์วันละ 900 บาท
- วงเงินค่าผ่าตัดครั้งละ 90,000 บาท
- ค่ารักษา ยา น้ำเกลือ แล็บ เวชภัณฑ์ พยาบาล 25,000 บาท ต่อครั้ง (โรคเดิมใช้วงเดิมภายใน 90 วัน)
- ค่ารักษาพยาบาลฉุกเฉินเนื่องจากอุบัติเหตุ แบบผู้ป่วยนอกภายใน 24 ชั่วโมงครั้งละ 7,000 บาท
- วงเงินค่ารักษาแบบ OPD สำหรับการเจ็บป่วยทั่วไป ปีละ 6,000 บาท
- ถ้าทั้งปีไม่ได้เคลมมีเงินคืน 3,000 บาท
- คุ้มครองชีวิต 360,000 บาท
- คุ้มครองกรณีทุพพลภาพ 360,000 บาท
รวมความคุ้มครองทั้งหมด ชำระเบี้ยปีละ 35,929 บาท
ประมาณการมูลค่ารับซื้อคืน
หรือ เงินในหน่วยลงทุนสะสมในกองทุนรวม กรณีได้ผลตอบแทนเฉลี่ยจากการลงทุนปีละ 5% ประมาณการตามกราฟเส้นสีเหลือง
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : ประกันสุขภาพเด็กแบบมีออมในกองทุนรวม H&S EXTRA – UDR
2. AIA Health Saver – UDR ประกันเด็กกึ่งเหมา
ประกันเด็กกึ่งเหมา AIA Health Saver UDR แผนประกันคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลระดับต้นถึงปานกลาง ให้ความคุ้มครองค่ารักษาทั้ง ผู้ป่วยใน และผู้ป่วยนอก (OPD) พร้อมสร้างเงินเก็บในกองทุนรวมให้ลูกไปในตัว
โบรชัวร์ความคุ้มครอง AIA Health Saver
ตารางเบี้ยประกัน AIA Health Saver UDR เด็ก
ตัวอย่างการวางแผน
เด็กชาย 3 ขวบ คุณพ่อ คุณแม่ ต้องการวางแผนประกันสุขภาพให้ก่อนไปโรงเรียนเลือกวางแผนประกันสุขภาพระดับกลาง AIA แผน AIA Health Saver UDR ค่าห้อง 3,000 บาท ค่ารักษา ค่ายา ครั้งละ 40,000 บาท ค่าผ่าตัดครั้งละ 400,000 บาท
ด้วยความคุ้มครองชีวิตและทุพพลภาพเริ่มต้นที่ 360,000 บาท ค่าเบี้ยรวมเป็นปีละ 41,800 บาท
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : AIA Health Saver UDR เด็ก
3. ประกันสุขภาพเด็กเหมาจ่าย AIA HEALTH HAPPY – UDR
ประกันสุขภาพเด็กแบบเหมาจ่ายวงเงินสูง พร้อมการลงทุนในกองทุนรวม ที่ถูกออกแบบมาสำหรับแนบกับประกันควบการลงทุน AIA ISSARA PLUS (UNIT LINKED) เพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนที่มากกว่า ได้ทั้งประกันสุขภาพ เงินออม และการลงทุนเพื่อสร้างกองทุนมาดูแลประกันสุขภาพระยะยาวให้ลูกในอนาคต
ราคา ค่าเบี้ยประกันสุขภาพเด็ก AIA HEALTH HAPPY – UDR
ตัวอย่าง ราคา ค่าเบี้ยประกันสุขภาพเด็กเหมาจ่าย AIA Health Happy- UDR แบบรวมประกันชีวิตหลักขั้นต่ำสุดที่ความคุ้มครองชีวิตและทุพพลภาพเริ่มต้นอย่างละ 360,000 บาทแล้ว
จุดเด่นของแผนประกัน AIA HEALTH HAPPY – UDR
- เพิ่มโอกาสได้รับผลตอบแทนโดยการลงทุนผ่านกองทุนรวม
- เบี้ยรวมคงที่ตลอดสัญญา
- การันตีการรับประกันต่อเนื่องตลอดสัญญา
- สามารถวางแผนระยะเวลาชำระเบี้ยได้
- ลดภาระการจ่ายเบี้ยประกันระยะยาว
- สามารถถอนหน่วยลงทุนมาใช้ได้
ตัวอย่างการวางแผน กรณีเด็กหญิงอายุ 1 ปี คุณพ่อคุณแม่ต้องการวางแผนประกันสุขภาพเด็กให้ลูก พร้อมสร้างเงินเก็บเงินออม และเงินลงทุนให้ลูกในอนาคต โดยวางแผน
ค่ารักษาพยาบาลวงเงินปีละ 5,000,000 บาท ต่อปี
ค่าห้องวันละ 3,000 บาท
หากเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรงความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลจะเพิ่มเป็น 10,000,000 ล้านบาทต่อปี ต่อเนื่องกัน 4 ปีกรมธรรม์
ความคุ้มครองประกันชีวิตหลัก AIA ISSARA PLUS ให้ความคุ้มครองชีวิต 360,000 บาท และความคุ้มครองกรณีทุพพลภาพ 360,000 บาท เบี้ยประกันรวมปีละ 61,335 บาท
กรณีกองทุนที่ลูกค้าเลือกทำผลตอบแทนเฉลี่ยได้ประมาณ 5% ต่อปี จะมีเงินสะสมตามกราฟเส้นสีเหลือง
*เป็นค่าประมาณการผลตอบแทนจริงจะขึ้นอยู่กับสภาพตลาดการลงทุน ณ ตอนนั้น
สามารถวางแผนได้หลากหลายรูปแบบ เช่น
- สร้างเป็นแผนประกันสุขภาพและกองทุนการศึกษาหรือเงินทุนให้ลูกในอนาคต
- สามารถวางแผนสะสมเงินในกองทุนช่วงระยะเวลาหนึ่ง เช่น 20, 25 หรือ 30 ปี หลังจากนั้นหยุดชำระเบี้ย แล้วให้ผลตอบแทนจากหน่วยลงทุนมาดูแลค่าเบี้ยประกันสุขภาพให้ลูกต่อในระยะยาวได้ (Long Term Health Care) โดยต้องมีการคำนวนค่าเบี้ยและวางแผนเงินสะสมในกองทุนให้เพียงพอ
- สามารถถอนหรือเพิ่มเงินออมในหน่วยลงทุนได้ (ตามมูลค่าหน่วยลงทุนที่มีคงอยู่ในกรมธรรม์ในช่วงนั้นๆ)
“สามารถปรึกษาตัวแทนที่มีใบอนุญาตแนะนำการลงทุนและสิทธิในการแนะนำผลิตภัณฑ์ Unit Linked เพื่อวางแผนให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคลไป”
* ต้องทำผ่านตัวแทนที่ได้รับสิทธิในการขายผลิตภัณฑ์ Unit Linked และมีใบอนุญาตผู้แนะนำการลงทุนเท่านั้น
** การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้เอาประกันควรประเมินความสามารถในการรับความเสี่ยง และศึกษาเรื่องการลงทุนก่อนการตัดสินใจ
*** ผลตอบแทนที่แสดงเป็นค่าประมาณการผลตอบแทนจากการลงทุนเฉลี่ยที่ 5% ต่อปี ซึ่งผลตอบแทนที่แทนจริงจะขึ้นอยู่กับการวางแผนการลงทุนและสภาพตลาด อาจจะมีความผันผวนระหว่างทาง ซึ่งทำให้ได้ผลตอบแทนน้อยหรือ มากกว่า ที่ประมาณการไว้ได้
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : ประกันสุขภาพเด็กเหมาจ่าย AIA HEALTH HAPPY- UDR
กองทุนรวม คือ การรวบรวมเงินทุนจากนักลงทุนทั่วไป คนละเล็กคนละน้อย เพื่อรวมเป็นเงินก้อนขนาดใหญ่ แล้วนำเงินที่รวบรวมนั้นไปลงทุนตามที่ได้ตกลงกับนักลงทุน กองทุนที่รวบรวมเงินที่ได้นี้จะได้รับการบริหารจัดการจากบริษัทจัดการกองทุนซึ่งมีหน้าที่ลงทุนแทนนักลงทุนหรือผู้ถือหน่วยลงทุน และจะมีการจัดตั้งผู้ดูแลผลประโยชน์เพิ่มขึ้นมาอีกซึ่งกฎหมายจะกำหนดเอาไว้ เพื่อคอยดูแลเงินกองทุนนั้นแทนนักลงทุนที่นำเงินมาลงทุน ในกรณีที่บริษัทจัดการกองทุนล้ม ผู้ดูแลผลประโยชน์ก็จะชดเชยให้กับนักลงทุน หรือบริษัทจัดการกองทุนไม่ได้ทำตามหนังสือชี้ชวนผู้ดูแลผลประโยชน์ก็จะเอาผิดบริษัทจัดการกองทุนแทนผู้ถือหน่วยลงทุนได้เช่นกัน
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.set.or.th > [ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย]
นิยามประกันสุขภาพแต่ละแบบ
- ประกันสุขภาพผู้ป่วยใน (IPD) คือ ประกันที่คุ้มครองผู้ที่จำเป็นต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลติดต่อกันไม่น้อยกว่า 6 ชั่วโมง ซึ่งต้องลงทะเบียนเป็นผู้ป่วยในโดยได้รับการวินิจฉัย และคำแนะนำจากแพทย์ตามข้อบ่งชี้ ซึ่งเป็นมาตรฐานทางการแพทย์ และในระยะเวลาที่เหมาะสมสำหรับการรักษาการบาดเจ็บหรือการเจ็บป่วยนั้นๆ
- ประกันสุขภาพผู้ป่วยนอก (OPD) คือ ประกันที่คุ้มครองผู้ที่รับบริการอันเนื่องจากการรักษาพยาบาลในแผนกผู้ป่วยนอกของโรงพยาบาล หรือในห้องรักษาฉุกเฉินของโรงพยาบาล ซึ่งไม่มีความจำเป็นตามข้อวินิจฉัยและข้อบ่งชี้ซึ่งเป็นมาตรฐานทางการแพทย์ในการเข้ารักษาเป็นผู้ป่วยใน
- ประกันสุขภาพแบบแยกค่าใช้จ่าย คือ ประกันที่คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลโดย แบ่งวงเงินความคุ้มครองแยกสำหรับแต่ละรายการ เช่น ค่าห้อง ค่าอาหาร ค่าแพทย์ ค่าผ่าตัด ค่ายา และค่ารักษาพยาบาลอื่น ๆ
- ประกันสุขภาพแบบเหมาจ่าย คือ ประกันที่คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลในโรงพยาบาลตามจริงแบบเหมาจ่าย เช่น ค่าตรวจวินิจฉัยทางรังสีวิทยา ค่ารักษาพยาบาลโดยการผ่าตัด ค่ารถพยาบาลฉุกเฉิน ค่ายา เวชภัณฑ์และค่ารักษาพยาบาลอื่นๆ นำมาคิดค่าใช้จ่ายรวมในวงเงินเดียวกัน แต่อาจมีการจำกัดในส่วนค่าห้องต่อวันไว้ ปัจจุบันสามารถเลือกวงเงินผลประโยชน์สูงสุดได้ตั้งแต่ 1 ล้าน ถึง 5 ล้านบาทต่อปี
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ : คำถามที่พบได้บ่อยของประกันสุขภาพ
สรุป
คุณพ่อคุณแม่คงได้ข้อมูลและตัวอย่างคร่าวๆของ แผนประกันสุขภาพลูกน้อย AIA ในปี 2567 นี้แต่ละแผนกันแล้ว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นประกันสุขภาพที่เหมาะสมกับลูกน้อยของแต่ละท่านก็จะมีความแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับ เพศ อายุ ประวัติสุขภาพ ความคุ้มครองที่ต้องการ โรงพยาบาลที่สะดวกใช้บริการในวันที่ลูกเจ็บป่วย และ งบประมาณของคุณพ่อคุณแม่แต่ละครอบครัวไป หากต้องการปรึกษาเพิ่มเติม หรือต้องการทำประกันสุขภาพให้ลูก LINE เข้ามาสอบถามข้อมูลกันได้เลยค่ะ