ประกันสุขภาพ

ประกันสุขภาพ

ประกันสุขภาพ คือ ประกันที่ให้ความคุ้มครองในเรื่องของค่ารักษาพยาบาลที่เกิดขึ้นทั้งจากเจ็บป่วย อุบัติเหตุ หรือโรคร้ายแรง เพื่อบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายให้กับลูกค้า โดยจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ตามวงเงินที่ลูกค้าทำไว้

เหตุผลที่ลูกค้าเลือกประกันสุขภาพ AIA

นี่คือเหตุผลหลักๆที่ลูกค้าส่วนใหญ่มั่นใจเลือกใช้ประกันสุขภาพจาก AIA

  1. เป็นบริษัทที่มีความมั่นคงทางการเงินสูงมีสินทรัพย์เฉพาะในไทยกว่า 1 ล้านล้านบาท
  2. เป็นบริษัทที่มีความเป็นมืออาชีพ ดูแลลูกค้าคนไทยกว่า 5 ล้านคน ด้วยกรมธรรม์มากกว่า 8 ล้านเล่มคิดเป็น 1 ใน 3 ของกรมธรรม์ในประเทศไทย
  3. มีเครือข่ายพันธมิตรคลินิคและโรงพยาบาลชั้นนำ ที่ร่วมกันให้บริการลูกค้ากว่า 800 แห่งทั่วประเทศ
  4. มีโปรแกรมดูแลสุขภาพ AIA Vitality ที่จะช่วยสนับสนุนให้คุณมีสุขภาพที่ดีขึ้น พร้อมรับสิทธิพิเศษต่างๆจากบริษัทพันธมิตรในเครือ และรับส่วนลดค่าเบี้ยพิเศษในปีถัดๆไป
  5. มีบริการการจัดการดูแลผู้ป่วยรายบุคคล (Personal Medical Case Management) จาก Teladoc ที่จะมีการจัดตั้งทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญส่วนตัว คอยให้บริการให้คำปรึกษา เพื่อช่วยคุณตัดสินใจเลือกการรักษาที่เหมาะสมในวันที่ต้องเจ็บป่วย
  6. ลดหย่อนภาษีได้สูงสุดถึง 25,000 บาท อ่านเพิ่มเติมได้ที่ : ประกันลดหย่อนภาษี

AIA Health Solution

เปรียบเทียบแผนประกันสุขภาพยอดนิยมของ AIA

นี่คือแผนประกันสุขภาพแบบหลักที่ได้รับความนิยมสูงสุดจาก AIA ให้วางแผนความคุ้มครองให้แต่ละท่านได้อย่างเหมาะสมกับงบประมาณ

เปรียบเทียบประกันสุขภาพ

 

ค่าเบี้ยประกันสุขภาพ AIA ชาย

ค่าเบี้ยประกันสุขภาพ AIA หญิง

*เอกสารชุดนี้ไม่ใช่ใบเสนอขาย จัดทำเพื่อประกอบความเข้าใจเท่านั้น

**เบี้ยประกันขึ้นอยู่กับ เพศ, อายุ และประวัติสุขภาพของแต่ละท่าน

แนวทางการวางแผนประกันสุขภาพ

นี่คือแนวทางเบี้องต้นในการวางแผนประกันสุขภาพให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าแต่ละท่านกันค่ะ

  1. สำรวจสวัสดิการที่เรามีอยู่ว่ามีอะไรบ้าง ครอบคลุมกับสถานพยาบาลที่เราเลือกใช้บริการหรือไม่
  2. สำรวจค่าใช้จ่ายของโรงพยาบาลที่เราวางใจจะใช้บริการ หรือโรงพยาบาลใกล้บ้านที่เราจะได้เข้าใช้บริการในกรณีฉุกเฉิน อ่านเพิ่มเติมที่ : อัตราค่ารักษาโรงพยาบาลเอกชน
  3. วางแผนวงเงินประกันให้ครอบคลุมและเพียงพอกับค่าใช้จ่ายในปัจจุบันและอนาคต (ถูกสุด ไม่ได้แปลว่า ดีสุด ความคุ้มครองต้องครอบคลุม และเพียงพอในวันที่จะใช้ด้วย)
  4. เลือกบริษัทประกันที่เราจะใช้บริการ เน้นจากความมั่นคง ความเป็นมืออาชีพในการให้บริการด้านประกันสุขภาพ บริการเสริม บริการร่วมต่างๆจากพันธมิตร ทั้งในด้านสุขภาพและโรงพยาบาล อ่านเพิ่มเติมที่ : ประกันสุขภาพที่ไหนดี
  5. เลือกตัวแทนให้บริการ จากความเป็นมืออาชีพ สามารถให้คำแนะนำเรื่องประกันสุขภาพได้อย่างรู้ลึกรู้จริง (ประกันที่เคลมได้ทุกอย่างไม่มีอยู่จริง จะมีเงื่อนไขและข้อยกเว้นอยู่แล้วตรงนี้สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากตัวแทนมืออาชีพได้)
  6. ตรวจสอบข้อเสนอรายละเอียดให้ถูกต้องตามที่วางแผนกันไว้
  7. หลังจากประกันอนุมัติและได้เล่มกรมธรรม์แล้วตรวจสอบรายละเอียดความถูกต้องของกรมธรรม์อีกครั้ง ในเรื่องของข้อมูลและความคุ้มครองต่างๆ อีกทั้งข้อยกเว้นและระยะเวลารอคอยต่างๆ ก็เป็นเรื่องที่สำคัญมากเช่นกัน

รายละเอียดข้อมูลแผนประกันสุขภาพ

AIA H&S ประกันสุขภาพ ราคาประหยัด

แผนประกันสุขภาพผู้ป่วยใน AIA H&S ถูกออกแบบมาเน้นการรักษาแบบ IPD แยกวงเงินค่าใช้จ่ายในการรักษา ด้วยเบ [...]

AIA H&S EXTRA ประกันสุขภาพ แบบมี OPD

แบบ AIA H&S EXTRA ประกันสุขภาพ AIA มี OPD เบี้ยประกันแบบคุ้มค่า พร้อมผลประโยชน์ค่ารักษา OPD ถ้าไม่เค [...]

ประกันสุขภาพเหมาจ่าย AIA HEALTH HAPPY

ประกันสุขภาพเหมาจ่าย AIA HEALTH HAPPY ยกระดับความคุ้มครอง ด้วยความคุ้มครองแบบ "เหมา เบิ้ล คุ้ม" ลดคว [...]

AIA INFINTE CARE ประกันสุขภาพเหมาจ่ายแบบคุ้มครองทั่วโลก

แผนประกันสุขภาพเหมาจ่าย AIA INFINITE CARE "คุ้มครองสูง ครอบคลุมทั่วโลก ดูแลทุกระดับการรักษา" แผนความ [...]

ประกันสุขภาพเหมาจ่าย AIA HEALTH PLUS

AIA Health Plus ประกันสุขภาพเหมาจ่ายที่ตอบโจทย์มนุษย์เงินเดือน (พิเศษสำหรับพนักงานในองค์กรที่มีประกั [...]

ประกันสุขภาพ UDR ค่าเบี้ยคงที่มีเงินสะสม

ประกันสุขภาพควบการลงทุน UDR จาก AIA วางแผนจ่ายเบี้ยได้คงที่ เพิ่มโอกาสได้รับผลตอบแทนจากกองทุนรวม การ [...]

ทำความรู้จักกับประกันสุขภาพแต่ละแบบ

ประกันสุขภาพเหมาจ่าย

ประกันสุขภาพเหมาจ่าย คือ ประกันสุขภาพแบบใหม่ ที่จะให้ความคุ้มครองในเรื่องของวงเงินค่ารักษาพยาบาลที่สูงกว่า และมีการรวมค่าใช้จ่ายในหมวดการรักษาต่างๆเช่น ค่ายา เวชภัณฑ์ ค่าตรวจทางห้องปฏิบัติการ ค่าตรวจวินิจฉัยทางรังสี ค่าผ่าตัด ต่างๆ มารวมไว้เป็นหมวดเดียวกัน ทำให้การเบิกจ่ายความคุ้มครองง่ายกว่าไม่ซับซ้อนและได้วงเงินที่สูงกว่าประกันแบบแยกค่าใช้จ่ายในอดีต แต่ก็จะตามมาด้วยค่าเบี้ยที่สูงกว่าเช่นกัน

ถึงแม้ว่าจะเรียกกันว่าเป็นประกันสุขภาพแบบเหมาจ่าย แต่ก็อาจจะมีการจำกัดค่าใช้จ่ายบางส่วนไว้อยู่เช่นกัน เช่น ค่าห้อง ค่าอาหาร ค่าแพทย์เยี่ยมไข้ประจำวัน ค่าใช้จ่ายกรณีเป็นผู้ป่วยนอก (OPD) เป็นต้น เพื่อไม่ให้ค่าเบี้ยประกันสูงจนเกินไป และคุ้มค่ากับงบประมาณลูกค้ามากที่สุด

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ : ประกันสุขภาพเหมาจ่าย

ประกันสุขภาพแยกหมวดวงเงินค่ารักษา

ประกันสุขภาพแบบแยกวงเงินค่ารักษา เป็นแผนแบบดั้งเดิมที่ให้บริการลูกค้ามาตั้งแต่ในอดีต ซึ่งเมื่อก่อนค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลทางการแพทย์ต่างๆไม่ได้สูงเท่าปัจจุบัน ก็จะมีการระบุวงเงินค่ารักษาพยาบาลแยกไว้ตามหมวด เช่น ค่าห้อง ค่ายา ค่าผ่าตัด  ซึ่งเมื่อก่อนวงเงินแต่ละหมวดจะยังเพียงพอกับค่ารักษาอยู่ แต่ หากมาเทียบกับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในปัจจุบันก็จะกลายเป็นวงเงินที่ค่อนข้างน้อยและไม่พอเพียง มีโอกาสเกิดส่วนเกินหากต้องไปนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลสูงมาก
แต่หากทางลูกค้าต้องการวางแผนค่ารักษาพยาบาลให้ตัวเองในเบื้องต้นและยังไม่มีงบประมาณสำหรับการจัดการความเสี่ยงเรื่องค่ารักษาพยาบาลตรงนี้มาก ก็อาจจะเป็นตัวเลือกตัวหนึ่งที่มาช่วยบรรเทาค่าใช้จ่ายในเบื้องต้นก่อนได้เช่นกัน

ประกันสุขภาพผู้ป่วยใน IPD

สำหรับประกันสุขภาพโดยส่วนใหญ่จะให้ความคุ้มครองในเรื่องของการรักษาพยาบาลกรณีเป็น ผู้ป่วยใน หรือ In Patient Department (IPD) คือ การเข้าพักรักษาตัวหรือต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาลต่อเนื่องกันไม่น้อยกว่า 6 ชั่วโมง ซึ่งผู้ป่วยต้องได้รับการลงทะเบียนเป็นผู้ป่วยในตามความจำเป็นตามมาตรฐานทางการแพทย์

ประกันสุขภาพ OPD

ประกันสุขภาพแบบมี OPD คือประกันสุขภาพที่ให้ความคุ้มครองในส่วนของการรักษาพยาบาลแบบผู้ป่วยนอก คือการรักษาที่ไม่จำเป็นต้องนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาล เช่นการมาตรวจกับแพทย์แล้วรับยากลับไปทานรักษาตัวที่บ้านได้ เป็นต้น

คำถามที่พบบ่อยของประกันสุขภาพ

  1. สามารถทำประกันสุขภาพอย่างเดียวได้ไหม
    • เนื่องจากประกันสุขภาพถือว่าเป็นสัญญาเพิ่มเติมจึงจะต้องทำแนบกับประกันชีวิตหลักด้วย (หากต้องการเน้นเฉพาะในเรื่องของสุขภาพสามารถทำประกันชีวิตแบบเบี้ยถูกแต่ความคุ้มครองยาวได้)
  2. ระยะเวลารอคอยคืออะไร รอกี่วัน
    • ช่วงระยะเวลาหลังจากที่ประกันอนุมัติแล้วลูกค้าจะยังไม่สามารถเรียกร้องสินไหมได้ เพื่อป้องกันการเจ็บป่วยที่เป็นมาก่อนทำประกัน สำหรับการเจ็บป่วยทั่วไปจะมีระยะเวลา 30 วัน สำหรับโรคเรื้อรังบางโรคอาจจะมีระยะเวลารอคอยถึง 60-180 วัน
  3. โรคอะไรที่ประกันไม่คุ้มครองบ้าง ข้อยกเว้นที่ประการสุขภาพไม่คุ้มครอง ได้แก่
    •  โรคที่เป็นมาก่อนทำประกัน
    • การตรวจสุขภาพ
    •  การรักษาที่เกี่ยวกับการเสริมสวยหรือความสวยความงาม
    •  การร้องขอเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลโดยไม่มีความจำเป็นทางการแพทย์
    •  การรักษาที่เกี่ยวกับความเครียดหรือทางจิตเวช
    • การรักษาภาวะเกี่ยวกับการนอนหลับ เป็นต้น
  4. ต้องสำรองจ่ายไหม
    • หากการเจ็บป่วยหรืออุบัติเหตุนั้นจำเป็นต้องได้รับการรักษาตามมาตรฐานทางการแพทย์และพ้นระยะเวลารอคอยต่างๆแล้ว ลูกค้าสามารถใช้สิทธิ์ Cashless Claim โดยไม่ต้องสำรองจ่ายได้
    • หากลูกค้าเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรง หรือ เรื้อรัง ในช่วงที่กรมธรรม์อายุยังไม่ถึง 2 ปี อาจจะยังต้องสำรองจ่ายเนื่องจากบริษัทจำเป็นต้องใช้เวลาในการรวบรวมเอกสารและตรวจสอบว่าโรคที่เป็นเป็นมาก่อนทำประกันหรือไม่ หากไม่มีประวัติเป็นมาก่อนทำประกันก็สามารถเคลมได้ปกติ
  5. เวลาป่วยเบิกได้หมดเลยไหม
    • สำหรับประกันสุขภาพจะจ่ายค่ารักษาให้ตามจริงแต่ไม่เกินวงเงินความคุ้มครองที่ลูกค้าได้ทำไว้
  6. มีโรคประจำตัว เคยป่วยหรือเคยผ่าตัดแล้ว แล้วทำประกันสุขภาพได้ไหม
    • สำหรับลูกค้าที่เคยมีประวัติเจ็บป่วยหรือโรคเรื้อรัง สามารถสมัครทำประกันสุขภาพได้ เพียงแต่อาจจะมีเงื่อนไขข้อยกเว้นพิเศษ หรืออาจต้องมีการปรับเพิ่มเบี้ยมากกว่าลูกค้าที่สุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ดีทั่วไป เนื่องจากลูกค้ามีระดับความเสี่ยงที่สูงกว่า
    • แต่ถ้าหากลูกค้าเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรงมาก่อนจนความเสี่ยงเกินกว่าที่บริษัทจะสามารถรับความเสี่ยงได้ก็อาจถูกปฏิเสธการรับประกันได้เช่นกัน จึงแนะนำให้ทุกท่านทำประกันไว้ก่อนวันที่จะเจ็บป่วย เพราะถ้าหากเจ็บป่วยแล้วอาจจะไม่สามารถทำประกันได้อีกต่อไป

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ : คำถามที่พบบ่อยสำหรับประกันสุขภาพ