ประกันสุขภาพเด็ก และทารกแรกเกิด ราคาสุดคุ้ม
การทำประกันสุขภาพเด็กเล็ก และทารกแรกเกิด ในปี 2567 นี้เป็นสิ่งที่จำเป็นมาก สำหรับทุกครอบครัวที่มีลูกน้อย ทีมงาน AIAplanner ได้เห็นถึงความสำคัญ ในการเป็นตัวช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในครอบครัว ให้ลูกรักได้รับการรักษาที่ดีที่สุดในวันที่เจ็บป่วย จึงได้ทำข้อมูลแผนที่ได้รับความนิยมสูงจากคุณพ่อคุณแม่ ในราคาสุดคุ้ม (*ปิดการขาย 16 ตุลาคม 2567)
ทำประกันสุขภาพเด็ก ให้ลูกดีอย่างไร
- ช่วยบริหารค่าใช้จ่ายของครอบครัว แม้ว่าในปัจจุบันค่าเบี้ยประกันสุขภาพเด็กจะราคาค่อนข้างสูงแต่หากเทียบกับค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลในปัจจุบันที่มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยเริ่มต้น 3x,xxx – 1xx,xxx บาทต่อครั้งที่เข้ารับการรักษา หากปีไหนที่ลูกน้อยเจ็บป่วยต้องเข้ารับการรักษาหลายครั้ง อาจจะต้องมีค่าใช้จ่ายสำหรับเรื่องค่ารักษาพยาบาลให้ลูกปีละหลักแสนบาทได้เลย
- เพิ่มโอกาสการรักษาที่ดีและบริการที่รวดเร็วสะดวกสบายให้กับลูก เมื่อมีวงเงินประกันที่เพียงพอจะสามารถช่วยให้คุณพ่อคุณแม่ตัดสินใจเลือกการรักษาที่ดีที่สุดให้กับลูกได้
- โรคในเด็ก มีมากมายและเด็กๆมีโอกาสป่วยได้ง่ายกว่าผู้ใหญ่ หากทำประกันสุขภาพลูกน้อยให้ลูกตั้งแต่แรกเกิดที่ไม่เคยเจ็บป่วย การสมัครทำประกันก็จะง่าย เนื่องจากบางโรค เช่น RSV ชัก หอบหืด หากลูกเคยป่วยแล้ว มาสมัครอาจถูกเลื่อนการรับสมัครทำประกัน มีข้อยกเว้นในประกัน ถูกเพิ่มเบี้ย หรือหากเป็นมากอาจถูกปฏิเสธการทำประกันได้
- ในช่วงเด็กเล็กที่ไม่สามารถพูดหรือสื่อสารได้ การมีประกันเด็ก ก็ทำให้คุณพ่อคุณแม่อุ่นใจและมั่นใจทุกครั้งที่ลูกรักต้องเจ็บป่วย
- การทำประกันสุขภาพให้ลูกตั้งแต่ยังไม่เคยเจ็บป่วยทำให้ประกันครอบคลุมการรักษาโดยไม่มีข้อยกเว้นจากโรคที่เคยเป็นมาก่อน
ทําประกันสุขภาพเด็กของอะไรดี ในปี 2567 ทำไมคุณพ่อคุณแม่ส่วนใหญ่เลือก AIA
“ซื้อประกันสุขภาพให้ลูกที่ไหนดี ” คงเป็นคำถามหนึ่งซึ่งอยู่ในใจของคุณพ่อคุณแม่หลายๆท่าน ประกันสำหรับเด็กในปัจจุบันเหลือให้เลือกใช้บริการไม่มากนัก หลายที่ปิดแผนประกันสุขภาพเด็กไป หลายที่มีการปรับเพิ่มเบี้ยลูกค้า แม้ประกันสุขภาพเด็กจะมีราคาค่อนข้างสูง จากสาเหตูที่เด็กเล็กมีโอกาสเจ็บป่วยได้บ่อยกว่าวัยอื่น อีกทั้งค่ารักษาพยาบาลในปัจจุบันก็สูงมากเจ็บป่วย 1 ครั้งอาจมีค่าใช้จ่ายเกินค่าเบี้ยไปทั้งปี
นี่คือเหตุผลส่วนหนึ่งที่คุณพ่อคุณแม่ส่วนใหญ่มั่นใจเลือกใช้บริการจาก AIA
- บริษัทมีความมั่นคง ประกอบธุรกิจในไทยมายาวนานกว่า 80 ปี ดูแลกรมธรรม์ให้กับคนไทยกว่า 5 ล้านคน เป็นจำนวนกว่า 8 ล้านกรมธรรม์ คิดเป็นกว่า 1 ใน 3 ของกรมธรรม์ในไทย
- เป็นบริษัทที่ได้รับความเชื่อมั่นสูงสุดจากผู้บริโภคในเรื่องประกันสุขภาพ อ่านเพิ่มเติมได้ที่ : จัดอันดับบริษัทประกันชีวิต
- มีความเชียวชาญเป็นมืออาชีพในการออกแบบแผนประกันให้ดูแลลูกค้าได้ในระยะยาว
- มีแผนประกันให้เลือกหลากหลาย ตั้งแต่แบบค่ารักษาพยาบาลเบื้องต้น ไปจนถึงวงเงินค่ารักษาพยาบาลสูงเพื่อความมั่นใจสูงสุดในการรักษาพยาบาล
- มีเครือข่ายเป็นโรงพยาบาลชั้นนำมากกว่า 300 แห่งทั่วประเทศ : โรงพยาบาลในเครือข่าย AIA
- มีระบบแฟกซ์เคลมสินไหม ช่วยอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าไม่ต้องสำรองจ่ายค่ารักษาพยาบาลกับทางโรงพยาบาล
- มาพร้อมกับแอพพลิเคชั่น ALive ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์และสังคมในการดูแลลูกน้อยและครอบครัว สมัครพร้อมรับสิทธิ์พิเศษฟรีได้ที่ : ALive
- ปัจจุบันการสมัครทำประกันเด็กให้ลูกก็สามารถทำได้ง่ายด้วยวิธีการ ซื้อประกันสุขภาพออนไลน์ด้วยระบบ AIA iSign
โครงสร้างประกันสุขภาพเด็กแบบ UDR (ค่าเบี้ยคงที่ มีเงินสะสมในระยะยาว)
ศึกษาแผนประกันสุขภาพเด็กแบบต่างๆ ของ AIA เพิ่มเติม
ประกันสุขภาพเด็ก ที่ดีที่สุดของ AIA
คนเป็นพ่อแม่ย่อมเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูกเสมอ ประกันสุขภาพเด็กที่ดีที่สุดของ AIA ประจำปี 2567 นี้คื [...]
ต.ค.
ประกันสุขภาพเด็กเหมาจ่าย AIA HEALTH HAPPY-UDR
ประกันสุขภาพเด็กเหมาจ่าย AIA HEALTH HAPPY-UDR ค่าเบี้ยคงที่ พร้อมสร้างกองทุนค่ารักษาพยาบาลระยะยาวให้ [...]
ก.ย.
AIA Health Saver – UDR ประกันเด็กกึ่งเหมา
แผนประกันเด็กกึ่งเหมาสุดคุ้ม AIA Health Saver - UDR ครอบคลุมการรักษาทั้ง IPD และ OPD อีกทั้งสามารถวา [...]
ธ.ค.
ประกันสุขภาพเด็กแบบมีออมในกองทุนรวม H&S EXTRA – UDR
วางแผนประกันสุขภาพเด็กและลูกน้อย ด้วยประกัน H&S EXTRA - UDR สร้างสวัสดิการค่ารักษาพร้อมระบบการออมเงิ [...]
ส.ค.
ประกันสุขภาพเด็กต้องดูอะไรบ้าง และข้อควรรู้ก่อนสมัครทำประกันสุขภาพ
ผู้ป่วยใน (IPD) คือ
ผู้ที่จำเป็นต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลติดต่อกันไม่น้อยกว่า 6 ชั่วโมง ซึ่งต้องลงทะเบียนเป็นผู้ป่วยในโดยได้รับการวินิจฉัย และคำแนะนำจากแพทย์ตามข้อบ่งชี้ ซึ่งเป็นมาตรฐานทางการแพทย์ และในระยะเวลาที่เหมาะสมสำหรับการรักษาการบาดเจ็บหรือการเจ็บป่วยนั้นๆ
ผู้ป่วยนอก (OPD) คือ
ผู้ที่รับบริการอันเนื่องจากการรักษาพยาบาลในแผนกผู้ป่วยนอกของโรงพยาบาล หรือในห้องรักษาฉุกเฉินของโรงพยาบาล ซึ่งไม่มีความจำเป็นตามข้อวินิจฉัยและข้อบ่งชี้ซึ่งเป็นมาตรฐานทางการแพทย์ในการเข้ารักษาเป็นผู้ป่วยใน
ประกันสุขภาพแบบแยกค่าใช้จ่าย คือ
ประกันที่คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลโดย แบ่งวงเงินความคุ้มครองแยกสำหรับแต่ละรายการ เช่น ค่าห้อง ค่าอาหาร ค่าแพทย์ ค่าผ่าตัด ค่ายา และค่ารักษาพยาบาลอื่น ๆ
ประกันสุขภาพแบบเหมาจ่าย คือ
ประกันที่คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลในโรงพยาบาลตามจริงแบบเหมาจ่าย เช่น ค่าตรวจวินิจฉัยทางรังสีวิทยา ค่ารักษาพยาบาลโดยการผ่าตัด ค่ารถพยาบาลฉุกเฉิน ค่ายา เวชภัณฑ์และค่ารักษาพยาบาลอื่นๆ นำมาคิดค่าใช้จ่ายรวมในวงเงินเดียวกัน แต่อาจมีการจำกัดในส่วนค่าห้องต่อวันไว้ ปัจจุบันสามารถเลือกวงเงินผลประโยชน์สูงสุดได้ตั้งแต่ 1 ล้าน ถึง 120 ล้านบาทต่อปี
ทำไมประกันสุขภาพเด็กถึงแพง
เนื่องจากเด็กเล็กมีโอกาสและความถี่ในการเจ็บป่วยบ่อยกว่าผู้ใหญ่มาก อีกทั้งค่ารักษาพยาบาลในโรงพยาบาลในปัจจุบันมีราคาค่อนข้างสูง จึงทำให้ค่าเบี้ยประกันสุขภาพของเด็กเลยมีราคาที่สูงกว่าผู้ใหญ่เมื่อเทียบในวงเงินเดียวกัน แต่ถึงแม้ว่าค่าเบี้ยประกันจะค่อนข้างสูงการทำประกันก็ประหยัดกว่าการจ่ายค่ารักษาเองให้กับโรงพยาบาลแน่นอน
หากคุณพ่อคุณแม่ท่านใดเคยมีประสบการณ์นอนในโรงพยาบาลจะทราบว่าค่าใช้จ่ายในการนอนโรงพยาบาล 1 ครั้งอาจจะสูงกว่าค่าเบี้ยประกันทั้งปีไปแล้ว แต่เด็กน้อยมีโอกาสที่จะ admit ปีละ 3-4 ครั้งเป็นเรื่องปกติ ดังนั้นการทำประกันช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในบ้านมากกว่าจ่ายเองแน่นอนค่ะ
ลูกเคยเป็น RSV ทำประกันได้ไหม
โรคติดเชื้อไวรัส RSV แม้ทางการแพทย์อาจจะเป็นโรคติดเชื้อ 1 ชนิด แต่ถือเป็นโรคที่มีนัยสำคัญต่อการทำประกันสุขภาพเด็กมาก เนื่องจากเด็กที่เคยป่วยด้วย RSV จะมีสถิติที่จะป่วยทางเดินหายใจได้บ่อยกว่าเด็กทั่วไป และในการรักษาในเด็กเล็กช่วงรักษาอาจต้องมีการดูดเสมหะ เคาะปอดช่วยเด็กในช่วงการรักษา ซึ่งทำให้เด็กเล็กที่ป่วยด้วย RSV จะมีค่าใช้จ่ายในการรักษาที่สูงกว่าปกติอาจสูงถึง 50,000 – 100,000 ต่อครั้ง ดังนั้นเด็กที่เคยป่วยด้วย RSV มาก่อนจะสมัครทำประกันยากมาก อาจมีการเว้นความคุ้มครองเรื่องทางเดินหายใจซึ่งเป็นสาเหตุการเจ็บป่วยหลักๆของเด็ก หรือบริษัทอาจจะยังไม่สามารถรับประกันได้ต้องเว้นเพื่อให้หายขาดจากโรคไปอย่างน้อย 6-12 เดือน
ทำประกันเด็กตอนไหน แรกเกิดเลยทำได้ไหม
คุณพ่อคุณแม่บางท่านมีการวางแผนสำหรับลูกไว้ดีมาก บางท่านอยากทำประกันให้ลูกตั้งแต่อยู่ในครรภ์ แต่ในปัจจุบันประกันสุขภาพเด็กของ AIA สามารถเริ่มต้นทำได้ตั้งแต่น้องอายุครบ 15 วันและมีสูติบัตรแล้ว เพราะหากน้องเกิดมีประวัติเจ็บป่วยอะไรมาก่อนอาจทำให้การสมัครทำประกันยากขึ้น
ประกันเด็กทำกี่วันคุ้มครอง
- การป่วยที่เกิดขึ้นในระยะเวลา 30 วันหลังอนุมัติ
- การป่วยดังต่อไปนี้ ที่เกิดขึ้นในระยะเวลา 120 วัน นับแต่วันเริ่มมีผลคุ้มครองตามสัญญา
- ไส้เลื่อนทุกชนิด
- ต้อเนื้อ หรือต้อกระจก
- การตัดทอนซิล หรืออดีนอยด์
- เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่
ข้อยกเว้นทั่วไปบางส่วนที่ประกันสุขภาพไม่คุ้มครอง
- โรคเรื้อรัง การเจ็บป่วยหรือการบาดเจ็บที่ยังไม่ได้รักษาให้หายก่อนวันทำสัญญาประกันภัย การตรวจรักษาภาวะที่เป็นมาแต่กำเนิด หรือปัญหาด้านพัฒนาการหรือโรคทางพันธุกรรม
- การตรวจสุขภาพทั่วไป การร้องขอเข้าอยู่รักษาตัวในโรงพยาบาลและการรักษาหรือตรวจวิเคราะห์เพื่อสาเหตุ ซึ่งไม่ใช่ความจำเป็นทางการแพทย์หรือไม่เป็นมาตรฐานทางการแพทย์
- การปลูกฝีหรือการฉีดวัคซีนป้องกันโรค การยกเว้นการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ภายหลังการถูกสัตว์ทำร้าย และวัคซีนป้องกันบาดทะยัก ภายหลังได้รับบาดเจ็บ
- การตรวจรักษาที่ยังอยู่ในระหว่างทดลอง การตรวจหรือการรักษาโรค หรืออาการหยุดหายใจขณะหลับ การตรวจหรือการรักษาความผิดปกติของการนอนหลับ การนอนกรน
- การตรวจรักษาอาการ หรือโรคที่เกี่ยวเนื่องกับภาวะทางจิต โรคทางจิตเวช หรือทางพฤติกรรม หรือความผิดปกติทางบุคลิกภาพ รวมถึงสภาวะสมาธิสั้น ออธิสซึม เครียด ความผิดปกติของการกิน หรือความวิตกกังวล
- การตรวจรักษา หรือผ่าตัดเกี่ยวกับฟันหรือเหงือก การทำฟันปลอม การคลอบฟัน การรักษารากฟัน อุดฟัน การจัดฟัน ขูดหินปูน ถอนฟัน การใส่รากฟันเทียม ยกเว้นกรณีจำเป็นอันเนื่องมาจากการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ ทั้งนี้ไม่รวมค่าฟันปลอมและการครอบฟันและการรักษารากฟันหรือใส่รากเทียม
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ : โรคที่ประกันสุขภาพไม่คุ้มครอง
ทำประกันให้ลูกต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง
ในการสมัครทำประกันให้ลูกนั้นจะใช้เอกสารหลักๆ 2 อย่าง คือ
- สูติบัตรของเด็ก
- บัตรประชาชนคุณพ่อหรือคุณแม่ที่เป็นผู้สมัครทำธุรกรรมแทนให้
ส่วนหากเด็กที่เคยมีประวัติเจ็บป่วยอาจจะมีการขอเอกสารประวัติสุขภาพขึ้นอยู่แต่กับละรายไป
ซึ่งช่องทางการสมัครหลักในปัจจุบันจะมี 2 ช่องทางคือ
- สมัครผ่านช่องทางพบตัวแทนเซ็นสัญญาปกติ
- สมัครผ่านระบบ iSign
สรุป
สำหรับการเลือกประกันสุขภาพเด็กในปี 2567 ให้ลูกนั้นมีหลายปัจจัยทั้งเรื่องของ เพศ อายุ โรงพยาบาลที่ใช้ ประวัติสุขภาพและงบประมาณของแต่ละบ้าน จะเห็นได้ว่ามีหลายแผนหลายวงเงินให้เลือกใช้ตามความเหมาะสม หากดูข้อมูลแล้วยังเลือกไม่ได้ว่าแผนไหนน่าจะเหมาะสมสำหรับครอบครัวเรา วางแผนร่วมกันกับที่ปรึกษาการเงินได้ค่ะ