AIA แบรนด์ประกันชีวิตอันดับ 1 ในประเทศไทย
AIA แบรนด์ประกันชีวิตอันดับ 1 ในประเทศไทย / โดย ลงทุนแมน
ลงทุนแมนเคยเขียนมาแล้วเป็น 1,000 บทความ
ทำให้รับรู้ได้ว่า ธุรกิจที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่นั้น
จำเป็นต้องมีแบรนด์ที่แข็งแกร่ง ในการเป็นผู้นำในตลาด
ด้วยเหตุนี้ โปรเจ็กต์ใหม่จึงเกิดขึ้น
โปรเจ็กต์นี้มีชื่อว่า
“Most Valuable Brands of the Year 2019”
โปรเจ็กต์นี้เป็นการรวบรวมแบรนด์ไทยที่เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมต่างๆ
ให้เป็นตัวอย่างในการศึกษาว่าแบรนด์เหล่านั้น เริ่มต้นอย่างไร มีกลยุทธ์อย่างไร ถึงรักษาความเป็นผู้นำในตลาดนั้นได้
สำหรับในบทความแรกก็คือ ธุรกิจประกันชีวิต
ซึ่งผู้ได้รับรางวัลนี้ก็คือ เอไอเอ..
แล้วทำไมถึงเป็น เอไอเอ
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับ เอไอเอ กันก่อน..
เอไอเอ ประเทศไทย เป็นส่วนหนึ่งของ กลุ่มบริษัทเอไอเอ (AIA Group) ซึ่งทำธุรกิจประกันชีวิตอยู่ใน 18 ประเทศทั่วเอเชียแปซิฟิก
ซึ่ง กลุ่มบริษัทเอไอเอ นั้นมีจุดเริ่มต้นมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1919 หรือเมื่อ 100 ปีที่แล้ว โดยคุณคอร์เนเลียส แวนเดอร์ สตารร์ นักธุรกิจชาวอเมริกันที่ริเริ่มทำธุรกิจประกันภัยในประเทศจีน
และหลังจากทำธุรกิจมา 91 ปี กลุ่มบริษัทเอไอเอ จึงเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงและเป็นการเสนอขายหลักทรัพย์ต่อประชาชนครั้งแรกที่มีมูลค่าสูงสุดเป็นอับดับที่ 3 ของโลกในปีนั้น
รู้หรือไม่ว่า..
จากการจัดอันดับของ Forbes ของบริษัทประกันในกลุ่ม Life & Health Insurance
กลุ่มบริษัทเอไอเอ เป็นบริษัทประกันชีวิตที่ใหญ่ที่สุดในโลกในปี 2019
กลุ่มบริษัทเอไอเอ (AIA Group) มีมูลค่าบริษัท 3.8 ล้านล้านบาท
ไชน่า ไลฟ์ อินชัวรันส์ (China Life Insurance) มีมูลค่าบริษัท 3.5 ล้านล้านบาท
พรูเด็นเชียล (Prudential Plc) มีมูลค่าบริษัท 1.9 ล้านล้านบาท
ที่น่าสนใจคือ กลุ่มบริษัทเอไอเอ โฟกัสกลุ่มลูกค้าธุรกิจประกันชีวิต
เพียง 18 ประเทศเฉพาะโซนเอเชียแปซิฟิก
แล้วภาพรวมธุรกิจ กลุ่มบริษัทเอไอเอ เป็นอย่างไร?
ในวงการธุรกิจประกันชีวิต เราสามารถวัดมูลค่าได้จาก Embedded Value
มูลค่าหุ้นตามมูลค่าธุรกิจ (EV Equity) ของ เอไอเอ
ปี 2016 มูลค่า 1.34 ล้านล้านบาท
ปี 2017 มูลค่า 1.61 ล้านล้านบาท
ปี 2018 มูลค่า 1.73 ล้านล้านบาท
จะเห็นได้ว่า Embedded Value Equity เติบโตต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา
นอกจากนี้ อีกหน่วยวัดสำคัญของธุรกิจประกันชีวิตก็คือ Value of New Business หรือ มูลค่ากรมธรรม์ทั้งหมดที่สามารถขายได้ในปีนั้น
Value of New Business ของ เอไอเอ
ปี 2016 มูลค่า 0.85 แสนล้านบาท
ปี 2017 มูลค่า 1.01 แสนล้านบาท
ปี 2018 มูลค่า 1.22 แสนล้านบาท
จะเห็นได้ว่า Value of New Business ของ เอไอเอ ก็เติบโตในช่วงที่ผ่านเฉลี่ยกว่า 20% เช่นกัน
ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่า กลุ่มบริษัทเอไอเอ เติบโตอย่างโดดเด่นทั้งในมุมภาพรวมธุรกิจทั้งหมด และฐานกรมธรรม์ใหม่ที่มากขึ้นเรื่อยๆ
แล้ว เอไอเอ ประเทศไทย เป็นอย่างไร?
เอไอเอ เริ่มทำธุรกิจในประเทศไทยมากว่า 81 ปี
จากการที่บริษัทแม่ กระจายธุรกิจอยู่ใน 18 ประเทศทั่วเอเชียแปซิฟิก
ข้อได้เปรียบแรกของ เอไอเอ ประเทศไทยก็คือ ความเชี่ยวชาญในภูมิภาคนี้..
เอไอเอ ประเทศไทยมีฐานข้อมูลเศรษฐกิจทั่วทั้งภูมิภาค และสามารถนำมาประกอบการตัดสินใจเพื่อการลงทุน การกระจายความเสี่ยง รวมถึงการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ
ที่น่าสนใจคือ เอไอเอ ประเทศไทย ยังเป็นผู้นำเรื่องแผนประกันชีวิตควบการลงทุน หรือ ยูนิต ลิงค์ ที่ต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับใบอนุญาต IC License ในการขายเท่านั้น
ซึ่งปัจจุบัน เอไอเอ มีตัวแทนประกันชีวิตกว่า 55,000 คน และมีคนที่ได้รับใบอนุญาต IC License หรือที่เรียกกันว่า ที่ปรึกษาทางการเงินกว่า 10,000 คน ซึ่งมากที่สุดในประเทศไทย
เรามาดูผลประกอบการของ เอไอเอ ประเทศไทย
ปี 2559 รายได้ 1.50 แสนล้านบาท กำไรสุทธิ 1.5 หมื่นล้านบาท
ปี 2560 รายได้ 1.60 แสนล้านบาท กำไรสุทธิ 2.1 หมื่นล้านบาท
ปี 2561 รายได้ 1.65 แสนล้านบาท กำไรสุทธิ 2.2 หมื่นล้านบาท
คิดเป็นการเติบโตของรายได้ และกำไรเฉลี่ย 5% และ 21%
ปัจจุบัน เอไอเอ ให้บริการลูกค้ากว่า 5.3 ล้านคน และให้บริการแก่ลูกค้าองค์กรกว่า 12,000 องค์กร ด้วยกรมธรรม์จำนวนกว่า 8.2 ล้านฉบับ
คิดเป็น 1 ใน 3 ของกรมธรรม์ประกันชีวิตทั้งหมดในประเทศไทย..
จากข้อมูลดังกล่าว จึงทำให้ เอไอเอ ครองส่วนแบ่งการตลาดธุรกิจประกันชีวิตมากที่สุดในประเทศไทย และ เป็นเหตุผลที่ทำให้แบรนด์ เอไอเอ ถือว่าเป็นแบรนด์ที่มีคุณค่าที่สุด ในกลุ่มธุรกิจประกันชีวิต ของประเทศไทยในตอนนี้..
เครดิต : ลงทุนแมน